วิธีการอ่านเค้าไพ่ บาคาร่า

วิธีการอ่านเค้าไพ่บาคาร่า ข้อดีของวิธีการอ่านเค้าไพ่บาคาร่า วิธีการเล่นเกมพนันไพ่ Bacara มีความเสี่ยงแน่นอน ที่อาจจะทำให้เราเสียเงินอย่างมากมาย แต่มันจะดีไม่น้อย หากว่าเรามีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับวิธีการอ่านเค้าไพ่บาคาร่า ให้เป็นนั้น ก็เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากการขาดทุน ก่อนที่เราจะลงมือ เล่นเกมพนัน บาคาร่าออนไลน์ จริงๆ ดังนั้น เราจึงควรจะศึกษา

หาความรู้ก่อนที่จะลงมือเล่น เพื่อลดความผิดพลาด แล้วทำให้เกิดการขาดทุน อาทิเช่น การทำความเข้าใจเทคนิคการเล่นบาคาร่า หรือ แม้กระทั่งการใช้สูตรบาคาร่า เพื่อช่วยในการเล่น ทำให้ลดความเสี่ยงจากการเสียเงินเดิมพันแบบง่าย ๆ เพราะตัวช่วยเหล่านี้จะทำให้เรามีโอกาสเสียเงินน้อยมาก จากการขาดทุน วันนี้แอดจึงจะมาแนะนำ วิธีอ่านเค้าไพ่บาคาร่า ให้ทุกท่านได้ศึกษาเรียนรู้ และนำไปใช้ในการเล่นพนันบาคาร่า

ข้อดีของวิธีการอ่านเค้าไพ่บาคาร่า ที่นักพนันควรรู้

เมื่อเราอ่านเค้าไพ่บาคาร่า เป็นจนชชำนาญ เราก็จะรู้แนวทางของการออกไพ่ครั้งต่อไปได้ ว่าเราควรจะลงเดิมพันฝั่งไหน
เค้าไพ่บาคาร่า ล้วนแล้วแต่มีหลากหลายแบบในการออกเค้าไพ่ของแต่ละโต๊ะนั้น หากว่าเราอ่านเค้าไพ่บาคาร่าเป็นจึงจะทำให้ง่ายต่อการวางเดิมพันอย่างแน่นอน
การอ่านเค้าไพ่เป็นจะทำให้เราลดอัตราความเสี่ยงของการขาดทุน และการวางเดิมพันในทุก ๆ ครั้งที่วางเดิมพัน ยังทำให้เรามี อัตราชนะบาคาร่า มากกว่าโอกาสเสีย เสียอีก
ทำให้เราเกิดความมั่นใจ ในการวางเดิมพันในแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเล่นโต๊ะไหน ค่ายไหน ก็ตาม

ทีนี้เราทุกคนก็รู้จักข้อดี และคุณประโยชน์ ของการอ่าานเค้าไพ่บาคาร่ากันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากใครที่อ่านเค้าไพ่จนชำนาญ นับว่ามีประโยชน์ไม่น้อยเลยสำหรับการเดิมพันในแต่ละครั้ง บอกได้เลยว่ามีโอกาสจากการทำกำไรจากการเล่นไพ่บาคาร่าแน่นอน ต่อไปเราแอดจะพาเราทุกคนไปรู้จักกับเค้าไพ่แต่ละชนิด ว่าจะมีรูปแบบไหน หน้าตาเป็นยังไงกันบ้าง ไปดูกันเลย

รูปแบบการออกเค้าไพ่ ที่นักพนันควรรู้

1.เค้าไพ่มังกร : หมายถึง เค้าไพ่ที่อยู่ในตารางช่องที่ 3, 7 ออกฝั่งเดิมติดกันไปเรื่อยๆ มากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป เราจะเรียกว่า “เค้าไพ่มังกรแดง” แต่ถ้าออกเหมือนกันมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป แต่ออกที่ฝั่งน้ำเงิน เราจะเรียกว่า “เค้าไพ่มังกรน้ำเงิน” ตามรูปด้านบน เพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : จะเห็นว่าตัวอย่างไพ่ในตารางช่องที่ 3 นั้น จะออกแต่ฝั่งแดงติดกัน 8 ครั้ง เราเรียกว่า “มังกรแดง 8 ตัว” และจะเห็นว่าไพ่ในตารางช่องที่ 7 เองก็ออกแดงติดกัน 9 ครั้ง หเราเรียกว่า “มังกรแดง 9 ตัว” ถ้าหากเจอไพ่แบบนี้ก็แทงตามสูตร “เค้าไพ่มังกร” แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ ไม่แนะนำให้สวน จากเท่าที่แทงตามสูตรนี้มาโอกาสพลาดน้อยมากๆ โอกาสที่จะได้เงินในตานี้สูงมากจะเสียก็ต่อเมื่อเวลาเปลี่ยนการออกเค้าไพ่จากของ Deler แค่นั้นเอง

2.เค้าไพ่มังกรขี่กัน : หมายถึง เค้าไพ่ที่อยู่ในตารางช่องที่ 3, 4, 5 ตามรูปข้างบน ออกฝั่งเดียวกัน ติดต่อกันหลาย ๆ ลูก คล้าย ๆ กับไพ่มังกรทั่วไป แต่จะตัดมาออกอีกฝั่งแต่จะออกทับแบบนี้กันไปเรื่อย ๆ ตามแนวของตาราง ตามรูปภาพ ให้ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างไพ่ในตารางช่อง 3, 4, 5 ที่ออกฝั่งเดียว ติดต่อกัน หลาย ๆ ลูก ออกทับกันไปเรื่อย ๆ เราจะเรียกว่า “เค้าไพ่มังกรขี่กัน” เค้าไพ่ลักษณะนี้เป็นเค้าไพ่ที่พบเห็นได้ยากมาก น้อยครั้งที่จะเจออ โดยเฉพาะ ไพ่มังกรขี่กันหลายๆ ตัวแบบนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้เห็นกัน เลยก็ว่าได้ แต่ก็ศึกษาไว้ ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

3.เค้าไพ่ปิงปอง : หมายถึง เค้าไพ่ ในตารางช่องที่ 1, 2, 3, 4 ที่จะออกสลับกัน ไปมาเรื่อยๆ เช่น ออกแดงแล้วตัดมาออกน้ำเงิน แล้วก็ตัดมาออกแดงอีก ไปเรื่อยๆ ไพ่แบบนี้ เราจะเรียกว่า “เค้าไพ่ปิงปอง” ตามรูปตัวอย่างด้านบน ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ปิงปองในตารางช่องที่ 1, 2, 3, 4 จะออกสลับกันไปมา และจะเห็นได้ว่าในตารางช่องที่ 1, 2, 3, 4, 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 มันจะออกสลับกันไปมาแบบซ้ำๆ แบบนี้ ถ้าหากเจอไพ่แบบนี้ ก็แทงตามสูตร “เค้าไพ่ปิงปอง” ไม่แนะนำให้แทงสวน แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะตัด โอกาสพลาดน้อยมากโอกาสที่จะได้เงินจากเคค้าไพ่ปิงปอง ในตานี้สูงมาก และจะเสียก็ต่อเมื่อเฉพาะ เวลาที่มีการเปลี่ยนการออกแบบไพ่ของ Deler เท่านั้นเอง

4.เค้าไพ่ลูกคู่ : หมายถึง เค้าไพ่ที่อยู่ในตารางช่องที่ 7, 8, 9 ไพ่จะออกชนะ ติดกัน 2 ครั้ง แล้วจะตัดสลับไปออกฝั่งตรงข้าม แล้วออกคู่เหมือนกัน หรือจะเรียกอีกอย่างว่าออกเบิ้ล หรือ เค้าไพ่ 2 ตัด ก็ได้ ตามรูปตัวอย่าง ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : จะเห็นได้ว่าตัวอย่างไพ่ในตารางช่องที่ 7, 8, 9 และ เค้าไพ่ในตารางช่องที่ 11 ไปจนถึงไพ่ในตารางช่องที่ 13 เค้าไพ่จะออกแบบเดียวกัน วนไป เราจะเรียกว่า “เค้าไพ่ลูกคู่” ถ้าหากเจอเค้าไพ่ในลักษณะแบบนี้ เราจะเรียกว่าไพ่ลูกคู่ ให้เราดูเค้าไพ่ อย่างเช่น ถ้าเราเห็นแดงออกเบิ้ลในตารางช่องที่ 7 ออกคู่แล้วตัดมา ออกน้ำเงิน แสดงว่ามีโอกาสที่เค้าไพ่จะเป็นเค้าไพ่ “เค้าไพ่ลูกคู่” ดังนั้น ให้เราแทงคู่สลับกันไปเรื่อยๆ จนกว่าไพ่จะตัดไปเป็นไพ่ปิงปอง หรือไพ่มังกรแทน ให้แทงตามสูตรเค้าไพ่ ไปเรื่อยๆ

5.เค้าไพ่แดงสองตัวตัด : หมายถึง เค้าไพ่ที่อยู่ในตารางช่องที่ 7, 8, 9 ถ้าเกิดไพ่ออกคู่แล้วตัดไปออกฝั่งตรงข้าม แล้วกลับมาออกคู่แบบเดียวกันซ้ำๆ แบบนี้ตามรูปตัวอย่าง เราจะเรียกว่าออก “เค้าไพ่แดงสองตัวตัด” ตามรูปด้านบน ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ออกฝั่งแดงในตารางช่องที่ 7 , 8 , 9 ออกติดกัน 2 ครั้ง แล้วก็จะตัดไปออกอีกฝั่ง อย่างเช่น ในตารางช่องที่ 7 จะเห็นว่าไพ่ออกแดงติดกัน 2 ครั้ง แล้วไพ่จะตัดไปออกน้ำเงิน เมื่อออกน้ำเงิน 2 ครั้งแล้ว ก็จะตัดมาออกแดง 2 ครั้งอีก แล้วก็จะตัดกลับไปออกน้ำเงิน ถ้าหากเราเจอไพ่แบบนี้ก็แทงตามสูตร “เค้าไพ่แดงสองตัวตัด” แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ ไม่แนะนำให้สวน

6.เค้าไพ่ทริปเปิ้ล : หมายถึง เค้าไพ่ที่แสดงอยู่ในตารางช่องที่ 7, 8, 9 ออกฝั่งแดง หรือออกฝั่งน้ำเงิน แบบติดกัน 3 ครั้ง แล้วตัดมาออกฝั่งตรงข้าม เค้าไพ่จะออกแบบเดียวกันไปๆมาๆ เราจะเรียกเคค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ทริปเปิ้ล” ตามรูปตัวอย่างด้านบน ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ในตารางช่องที่ 7 , 8 , 9 และตารางที่ 11 , 12 เค้าไพ่จะออกฝั่งแดง หรือจะออกฝั่งน้ำเงินติดกัน 3 ครั้ง แล้วก็จะตัดมาออกฝั่งตรงข้ามเค้าไพ่จะออกแบบเดียวกัน ไปๆมาๆ หากเจอไพ่แบบนี้ก็แทงตามสูตร “เค้าไพ่ทริปเปิ้ล” แทงตามสูตรไปเรื่อยๆ โอกาสพลาดน้อยมาก จะเสียก็ต่อเมื่อเวลาเปลี่ยนการออกแบบไพ่ของ Deler แค่นั้นเอง

7.เค้าไพ่สามตัวตัด : หมายถึง เค้าไพ่ตัวอย่างที่อยู่ในตารางช่องที่ 1, 5, 7, 9, 11 จะเห็นได้ว่าไพ่ออกฝั่งแดงที่ตารางใดๆ ก็จะออกแดงติดต่อกัน 3 ครั้ง แล้วจึงค่อยตัดไปออกน้ำเงิน ออกแบบเดียวกันซ้ำๆ วนไป แบบนี้เราเรียกว่า “เค้าไพ่สามตัวตัด” ตามรูปตัวอย่างภาพ ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง: ตัวอย่างการออกเค้าไพ่ในตารางช่องที่ 1, 5, 7, 9, 11 เค้าไพ่จะออกฝั่งแดง ที่ตารางใดๆ เค้าไพ่ก็จะออกแดงติดต่อกัน 3 ครั้ง หลังจากนั้น ก็จะตัดไปออกน้ำเงิน ถ้าหากเจอเค้าไพ่แบบนี้ ก็ให้แทงตามสูตร “เค้าไพ่สามตัวตัด” ไม่แนะนำให้แทงสวน ควรจะแทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะตัด แล้วค่อยวิเคราะห์ใหม่

8.เค้าไพ่แบบแดงสามตัวตัด : หมายถึง เค้าไพ่ที่ออกฝั่งแดง โดยออกติดต่อกัน 3 ครั้ง แล้วจึงจะตัดไปออกน้ำเงิน ถ้าเค้าไพ่ออกแบบเดียวกันซ้ำๆ แบบนี้เราจะเรียกว่า “เค้าไพ่แดงสามตัวตัด” ตามรูปภาพเค้าไพ่แดงสามตัวตัด เค้าไพ่แดงสามตัวตัดจะคล้ายกันกับเค้าไพ่สามตัวตัด

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ตารางช่องที่ 5 , 7 , 9 , 11 ออกติดต่อกัน 3 ครั้งแล้วจึงเปลี่ยนไปออกอีกฝั่งแบบนี้เราเรียกว่า “เค้าไพ่แดงสามตัวตัด” จะคล้ายกันกับ “เค้าไพ่สามตัวตัด” มาก หากเจอเค้าไพ่แบบนี้ ก็ควรแทงตามสูตรแดงสามตัวตัดได้เลย ไม่แนะนำให้แทงสวน แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ จนมันตัด ตัวอย่างเช่น ถ้าเค้าไพ่ออกแดง 3 ครั้ง แล้วครั้งต่อไปเราใส่น้ำเงิน

9.เค้าไพ่สี่ตัวตัด : หมายถึง เค้าไพ่ที่ออก ฝั่งแดงแบบติดต่อกัน 4 ครั้ง แล้วจึงจะตัดไปออกฝั่งน้ำเงิน 4 ครั้ง เค้าไพ่ชนิดนี้จะออกสลับแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่สี่ตัวตัด” ตามรูปภาพ ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ตารางช่องที่ 4 , 5 , 7 , 8 , 9 , 10 สังเกตได้ว่า จะเห็นเค้าไพ่ออกชนะ ติดต่อกัน 4 ครั้ง แล้วจึงจะตัดไปออกอีกฝั่งตรงข้าม เราเรียกว่า “เค้าไพ่สี่ตัวตัด” หากเจอไพ่แบบนี้ ก็ให้ตามสูตรแดงสามตัวตัดได้เลย แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ จนมันตัด ไม่แนะนำให้สวน ตัวอย่างเช่น ถ้าเค้าไพ่ออกแดง 4 ครั้ง แล้วตาต่อไปเราใส่น้ำเงิน 4 ครั้ง แล้วก็ให้สลับมาแทงฝั่งแดง แทงไปแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าเค้าไพ่จะเปลี่ยน

10.เค้าไพ่แดงไม่ติด : หมายถึง เค้าไพ่ที่ออกฝั่งแดง แล้วก็ตัดไปออกฝั่งน้ำเงิน จะออกสลับแบบนี้ไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ออกแดงเบิ้ล เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่แดงไม่ติด” ตามรูปภาพ ให้ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ตารางช่องที่ 2 , 3 , 5 , 6 , 7 , 9 , 11 , 13 เค้าไพ่จะออกแดง แบบที่ไม่ติดต่อกันก็คือ ออกแดงแล้ว แต่จะไม่ออกเบิ้ล หรือไม่ติดแดง หากเจอไพ่แบบนี้ก็แทงตามสูตร “เค้าไพ่แดงไม่ติด” แทงตามสูตรเค้าไพ่แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเค้าไพ่จะมีการเปลี่ยนไป

11.เค้าไพ่เค้าแดงลูกติด : หมายถึง เค้าไพ่ที่จะออกแดง แล้วจะเบิ้ลแดงไปเรื่อย ๆ เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่แดงลูกติด” เค้าไพ่จะออกแดงติดต่อกันไปเรื่อย ๆ จนกว่าเค้าไพ่จะตัดไปออกฝั่งน้ำเงิน ตามรูปภาพ ให้ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ตารางช่องที่ 1 , 3 , 5 , 9 , 11 เค้าไพ่จะออกแดงแล้วจะเบิ้ลแดง แบบนี้ ไปเรื่อยๆ เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่แดงลูกติด” หากเจอแบบนี้ ก็ให้แทงตามสูตร “เค้าไพ่แดงลูกติด” แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ จนกว่าไพ่จะเปลี่ยนไป

12.เค้าไพ่ทรงตึก : หมายถึง เค้าไพ่ที่อยู่ในตารางช่องที่ 8, 9, 10, 11, 12 เค้าไพ่จะออกชนะติดต่อกันหลายๆ ตา ตัวอย่างเช่น ในตารางช่องที่ 8 เค้าไพ่จะออกแต่น้ำเงินติดต่อกัน 5 ครั้ง แล้วเค้าไพ่จึงจะตัดมาออกในตารางช่องที่ 9 เค้าไพ่จะออกน้ำเงิน 5 ครั้ง และจะออกสลับกัน ออกแบบนี้ติดต่อกันไปเรื่อยๆ เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ทรงตึก” ตามรูปภาพ ให้ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน จะออกแบบนี้ไปจนกว่าเค้าไพ่จะเปลี่ยนไป

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ตารางช่องที่ 8, 9, 10 , 11 , 12 เค้าไพ่ออกชนะ ติดต่อกันหลายๆ ตา และจะออกติดกันแบบนี้ ไปเรื่อยๆ จนกว่าเค้าไพ่จะเปลี่ยนไป หากเจอเค้าไพ่แบบนี้ ก็ให้เราแทงตามสูตร “เค้าไพ่ทรงตึก” แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ จนกว่าเค้าไพ่จะเปลี่ยน

13.เค้าไพ่ตึกคู่ : หมายถึง เค้าไพ่ที่อยู่ในตารางช่องที่ 4, 5, 8, 9, 11, 12 เค้าไพ่จะออกชนะ แบบติดต่อกันหลายๆ ตา และจะออกเป็นคู่ระหว่างแดง และน้ำเงิน ตัวอย่างเช่น แดงออก 4 ตาติด แล้วจากนั้นจะเปลี่ยนไปออกน้ำเงิน 4 ตา แล้วน้ำเงินก็ตัดมาออกแดง 4 ตาติด ออกแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ตึกคู่” ตามรูปภาพ ให้ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน เค้าไพ่จะออกแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเค้าไพ่จะเปลี่ยนรูปแบบการออกเค้าไพ่ของ Dealer

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างการออกเค้าไพ่ ในตารางช่องที่ 4, 5, 8, 9, 11, 12 เค้าไพ่จะออกชนะ ติดต่อกันหลายๆ ตา และจะออกเป็นคู่ระหว่างแดงและน้ำเงิน เช่น แดงออก 4 ตาติดแล้ว จึงจะเปลี่ยนไปออกน้ำเงิน 4 ตา แล้วน้ำเงินก็จะตัดมาออกแดง 4 ตาติด เค้าไพ่ออกแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ตึกคู่” หากเจอเค้าไพ่แบบนี้ ก็ให้แทงตามสูตร “เค้าไพ่ตึกคู่” แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ จนกว่ารูปแบบเค้าไพ่จะเปลี่ยน

14.เค้าไพ่ตึกเดี่ยว : หมายถึง เค้าไพ่ที่อยู่ในตาราง จะเห็นได้ว่าเค้าไพ่จะออกไม่ติดกัน และจะอยู่ห่างออกไปแต่จะออกชนะติดต่อกันหลายๆ ครั้ง เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ตึกเดี่ยว” ลักษณะของเค้าไพ่ชนิดนี้ จะคล้ายกับไพ่เค้ามังกร ก็คือ เค้าไพ่จะออกลูกติดไปเรื่อยๆ ตามรูปตัวอย่างภาพใ ห้ท่านดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ในตารางช่องที่ 3, 5, 8, 10, 12 จะเห็นได้ว่าเค้าไพ่จะออกชนะติดต่อกันยาวๆ แบบนี้ เราจะเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ตึกเดี่ยว” หากเจอเค้าไพ่แบบนี้ ก็ให้เราแทงตามสูตร “เค้าไพ่ตึกเดี่ยว” แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ ไม่แนะนำให้แทงสวน

15.เค้าไพ่ชายโครง : หมายถึง เค้าไพ่ที่อยู่ในตารางออกห่างกัน เช่น เค้าไพ่ในตารางที่ 6, 8, 10, 12 จะออกน้ำเงิน ชนะแบบติดกันหลายตา แล้วก็จะตัดมาออกแดง แต่จะออกแดงไม่ติดลูก แล้วแดงก็จะตัดมาออกน้ำเงิน แบบติดลูกสลับกันไปเรื่อยๆ เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ตชายโครง” ตามรูปตัวอย่างภาพ ให้ท่านดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ในตารางช่องที่ 6, 8, 10, 12 จะเห็นได้ว่าเค้าไพ่จะออกน้ำเงินชนะ แบบติดลูกหลายลูก แล้วเค้าไพ่ก็จะตัดมาออกแดง แต่จะออกแดงไม่ติดลูก แล้วแดงก็จะตัดมาออกน้ำเงิน เค้าไพ่แบบติดลูกสลับกันไปเรื่อยๆ หากเจอไพ่แบบนี้ก็แทงตามสูตร “เค้าไพ่ตชายโครง” แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ จนกว่าเค้าไพ่จะเปลี่ยนรูปแบบ

16.เค้าไพ่ชายโครง 1-2 : หมายถึง เค้าไพ่ที่อยู่ในตารางช่องที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 เค้าไพ่จะออกชนะ 1 – 2 ครั้ง แล้วจึงจะสลับกันหลายๆ รอบ เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ชายโครง 1-2” ตามรูปตัวอย่าง ให้ท่านดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ในตารางช่องที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 และ 9 เค้าไพ่จะออกชนะ 1 – 2 ครั้ง ตัวอย่างเช่น เค้าไพ่ในตารางที่ 1 จะเห็นได้ว่าเค้าไพ่จะออกแดง 2 ครั้งแล้วก็ตัดมาออกน้ำเงิน แล้วจึงจะตัดมาออกแดงอีก 2 ครั้ง เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ชายโครง 1-2″จะเห็นได้ว่าเค้าไพ่จะออกสลับกันหลายๆ ครั้ง หากเจอไพ่แบบนี้ก็แทงตามสูตร “เค้าไพ่ชายโครง 1-2” แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ จนกว่ารูปแบบเค้าไพ่จะเปลี่ยน ไม่แนะนำให้แทงสวน

17.เค้าไพ่ชายโครง 1-3 : หมายถึง เค้าไพ่ที่อยู่ในตารางช่องที่ 3, 4, 5, 6, 7, 8 จะเห็นได้ว่าเค้าไพ่จะออกชนะ 1 – 3 ครั้ง สลับกันหลายๆ รอบ เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ชายโครง 1-3” ตามรูปตัวอย่าง ให้ท่านดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ในตารางช่องที่ 3, 4, 5, 6, 7, 8 และ 9 จะเห็นได้ว่าเค้าไพ่จะออกชนะ 1 – 3 ครั้ง ยกตัวอย่างเช่น เค้าไพ่ในตารางที่ 3 เค้าไพ่ออกแดง 3 ครั้ง แล้วจึงจะตัดมาออกน้ำเงิน แล้วจากนั้นก็จะตัดมาออกแดงอีก 3 ครั้ง เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ตชายโครง 1-3” เค้าไพ่จะออกแบบนี้สลับกันหลายๆ ครั้ง หากเจอไพ่แบบนี้ก็แทงตามสูตร “เค้าไพ่ตชายโครง 1-3” แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ จนกว่ารูปแบบเค้าไพ่จะเปลี่ยน ไม่แนะนำให้แทงสวน

18.เค้าไพ่ชนแล้วตัด : หมายถึง เค้าไพ่ที่อยู่ในตารางช่องที่ 1 จะเห็นได้ว่าเค้าไพ่จะออกแดงติดกัน 2 ครั้ง แล้วก็จะออกเสมอ “TIE” และเปิดต่อมาก็จะตัดออกน้ำเงิน เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ชนแล้วตัด” ตามรูปตัวอย่าง ให้ดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ในตารางช่องที่ 1 , 5 , 9 , 10 , 13 เค้าไพ่ออกแดง หรือออกน้ำเงิน แต่พอออกเสมอแล้ว เค้าไพ่ก็จะตัดมาออกฝั่งตรงข้ามในทันที หากเจอไพ่แบบนี้ ก็ให้แทงตามสูตร “เค้าไพ่ชนแล้วตัด” แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ จนกว่ารูปแบบเค้าไพ่จะเปลี่ยน ไม่แนะนำให้แทงสวน

19.เค้าไพ่ชนแล้วตัด : หมายถึง เค้าไพ่ที่อยู่ในตารางช่องที่ 1 จะเห็นได้ว่าเค้าไพ่จะออกแดงติดกัน 2 ครั้ง แล้วก็จะตัดมาออกเสมอ “TIE” และเปิดต่อมายังออกติดลูกเดิมอยู่เราจะเรียกเค้าไพ่แบบนี้ว่า “เค้าไพ่ชนแล้วไม่ตัด” ตามรูปตัวอย่าง ให้ท่านดูเพื่อเป็นแนวทางในการวางเดิมพัน

วิธีการดูตาราง : ตัวอย่างเค้าไพ่ในตารางช่องที่ 1 , 5 , 9 , 10 , 13 จะเห็นได้ว่าเค้าไพ่จะออกแดง หรือออกน้ำเงิน แต่เมื่อออกเสมอแล้วเปิดรอบต่อมา ยังออกติดลูกเดิมอยู่ หากเจอไพ่แบบนี้ก็ให้แทงตามสูตร “เค้าไพ่ชนแล้วไม่ตัด” แทงตามสูตรเค้าไพ่ไปเรื่อยๆ จนกว่ารูปแบบเค้าไพ่จะเปลี่ยน ไม่แนะนำให้แทงสวน และนี่คือวิธีอ่านเค้าไพ่บาคาร่าง่ายๆ ที่แอดนำมาให้ทุกท่านได้ศึกษาก่อนที่จะวางเดิมพันเงินจริง หากท่านศึกษาหาข้อมูลก่อนเล่น ท่านก็จะสามารถเอาชนะบาคาร่าได้อย่างแน่นอน